Samsung เพิ่งเข้าซื้อกิจการบริษัทสแกนลายนิ้วมือมูลค่า 650 ล้านดอลลาร์หรือไม่? ไม่.
เมื่อพิจารณาจากนิสัยของ Samsung ในการคัดลอกทุกสิ่งที่ Apple ทำอย่างไร้ยางอาย ฉันไม่แปลกใจเลยที่ได้เห็นเช้านี้ รายงานว่าบริษัทเกาหลีใต้เพิ่งใช้จ่ายไป 650 ล้านดอลลาร์กับบริษัทสแกนลายนิ้วมือชื่อ FingerPrint การ์ด. อันที่จริง ฉันแค่กลอกตาเมื่อเห็นข่าวและคิดว่า “มีเรื่องเซอร์ไพรส์”
แต่ดูเหมือนว่าสิ่งทั้งปวงถูกประดิษฐ์ขึ้นอย่างสมบูรณ์ ข่าวประชาสัมพันธ์ที่ออกมาประกาศการย้ายดังกล่าวเป็นเท็จ และทั้ง Samsung และ FingerPrint Cards ได้ปฏิเสธการเข้าซื้อกิจการ
แล้วข่าวมาจากไหน? ซัมซุงกล่าวว่า "เป็นเพียงข่าวลือที่ไม่มีมูล" แต่ยังมีอะไรมากกว่านั้นอีกเล็กน้อย นี่ไม่ใช่เรื่องราวที่ "คนวงใน" หรือนักวิเคราะห์อุตสาหกรรมฝันถึง จริง ๆ แล้วมีการประกาศในข่าวประชาสัมพันธ์ที่เผยแพร่เมื่อเช้านี้โดย Cision บริษัทซอฟต์แวร์ของสวีเดนที่พัฒนาโซลูชันการตลาดและการประชาสัมพันธ์
ข่าวประชาสัมพันธ์กล่าวว่า Samsung ได้ซื้อ FingerPrint Cards มูลค่า 650 ล้านดอลลาร์และ "การเข้าซื้อกิจการจะเพิ่มการเข้าถึงของ swipe เทคโนโลยีเซ็นเซอร์” มีคำพูดซึ่งประกอบขึ้นอย่างชัดเจนจาก CEO ของ Samsung Kwon Oh-hyun และ Johan Carlström CEO ของ FingerPrint Cards
เราทุกคนต่างก็เชื่อว่า Samsung กำลังเตรียมรับมือกับ iPhone 5s และ HTC One max. ที่กำลังจะมาถึง ด้วยสมาร์ทโฟนสแกนลายนิ้วมือของตัวเอง และถึงแม้ว่าสิ่งนี้จะยังคงเกิดขึ้น – Samsung จะต้องมีเครื่องสแกนลายนิ้วมือหาก Apple มี – บริษัท ไม่ต้องการการ์ด FingerPrint เพื่อให้มันเกิดขึ้นอย่างชัดเจน
“ไม่จริง มันเป็นข่าวลือที่ไม่มีมูล” ซัมซุงกล่าวในแถลงการณ์เมื่อเช้านี้ หลังจากเสนอแนะเบื้องต้นว่า ข่าวคือ "ข่าวลือในตลาด" คนอื่น ๆ บอกว่ามันถูกประดิษฐ์ขึ้นเพื่อพยายามบิดเบือนราคาหุ้น ด้วย. FingerPrint Cards ได้ระงับการซื้อขายหุ้นเมื่อเช้านี้
“ข่าวในสื่อทุกวันนี้ว่า Samsung ได้บัตรลายนิ้วมือ AB นั้นไม่ถูกต้อง” บริษัทกล่าว “ข่าวประชาสัมพันธ์ครั้งก่อนไม่ได้ถูกส่งโดย Fingerprint Cards AB การซื้อขายหุ้นถูกระงับ สิ่งที่เกิดขึ้นจะถูกรายงานไปยังตำรวจและหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินของสวีเดน”
ในขณะที่เรายังไม่รู้จัก จริง เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังข่าวประชาสัมพันธ์ ฉันพนันได้เลยว่าจะมีคนหางานภายในสิ้นวัน เราจะนำเสนอเรื่องราวนี้ให้คุณมากขึ้นในขณะที่กำลังพัฒนา
แหล่งที่มา: TechCrunch