Apple ไม่ใช่บริษัทมหาชนที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกอีกต่อไปแล้ว [ความเห็น]
มันยากที่จะลืมวันที่ Apple แซง Exxon Mobil ขึ้นเป็นบริษัทมหาชนที่มีมูลค่ามากที่สุด ในโลก. แต่มีหลายอย่างเกิดขึ้นกับหุ้นของ Apple ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2011 AAPL ได้ขี่รถไฟเหาะที่วุ่นวายในตลาดหุ้น หลังจาก ประกาศไตรมาสวันหยุดนักขัตฤกษ์วันพุธ ด้วยรายรับ 54.5 พันล้านดอลลาร์และกำไร 13.1 พันล้านดอลลาร์ AAPL ลดลงมากกว่า 10% นั่นคือมูลค่าตลาดมากกว่า 50 พันล้านดอลลาร์ที่หายไปในหนึ่งวัน กะเทย.
หุ้นของ Apple ไม่ได้ร้อนแรงนัก และหลังจากรั้งอันดับ 2 ได้นานกว่าหนึ่งปี วันนี้เป็นวันที่ Exxon Mobil ล้มล้าง Apple ที่ Wall Street
และก็ไม่เป็นไร นี่ไม่ได้หมายความว่าบริษัทจะถึงวาระ
มูลค่าตลาดของ Apple ปิดที่ 413 พันล้านดอลลาร์ วันนี้ใน NASDAQ ขณะที่ Exxon ปิดที่ 418 พันล้านดอลลาร์. AAPL อยู่ที่ประมาณ 440 ดอลลาร์หลังเวลาทำการ มันเป็นการตกต่ำครั้งใหญ่สำหรับ Apple ตั้งแต่ AAPL ซื้อขายที่มากกว่า $700 ต่อหุ้น ในเดือนกันยายน 2555
แต่ทำไมเกลียวคลื่นช้าในช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา? Apple มีส่วนแบ่งใน ความล้มเหลว
และ เชคอัพแต่ไม่มีอะไรที่จะส่งสัญญาณการสิ้นสุดของราชวงศ์ “สตีฟจ็อบส์ไม่เคย!” การโต้เถียงอาจจะไม่มีวันตาย แต่ขอพูดตรงๆ นะ Tim Cook ไม่ได้ควบคุม Apple ให้แตกต่างจาก Jobs มากนักหลายอย่างอยู่นอกเหนือการควบคุมของ Apple ในระหว่างการเรียกรายได้เมื่อต้นสัปดาห์นี้ Peter Oppenheimer CFO ของ Cook และ Apple ยังคงกล่าวโทษซัพพลายเชนในต่างประเทศ Apple ไม่สามารถผลิต iPad minis ได้เพียงพอกับความต้องการในไตรมาสที่แล้ว ดังนั้น เวลาจัดส่งล่าช้า. ข้อจำกัดด้านการจัดหาสำหรับ iMac. ใหม่ ส่งผลเสียต่อยอดขาย Mac โดยรวม. ยอดขาย iPhone จะไม่สามารถเติบโตได้ในระดับสากลจนกว่า Apple จะสามารถลดราคาในตลาดเกิดใหม่และทำข้อตกลงกับผู้ให้บริการรายใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง China Mobile (ซึ่งเป็นเรื่องลือกันว่าจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้).
และนักวิเคราะห์ของ Wall Street ก็ถือเอาประสิทธิภาพของ Apple สู่มาตรฐานระดับสูงอย่างบ้าคลั่ง. เมื่อคุณมีบริษัทที่เติบโตในอัตราที่เหลือเชื่อที่ Apple มีในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา คุณเริ่มมีความคาดหวังที่ไม่สมจริง การเติบโตของ Apple เริ่มเป็นที่ราบสูงแต่นั่นไม่ได้หมายความว่าบริษัทกำลังสะดุด ยอดขายยังคงเพิ่มขึ้นทั่วกระดาน ในที่สุด Tim Cook ก็มีพื้นที่ให้หายใจและพิสูจน์ตัวเองในฐานะ CEO คนใหม่
อย่าให้มูลค่าหุ้นของ Apple เป็นตัวกำหนดสถานะโดยรวมของบริษัท เป็นปัจจัยสำคัญ แต่ไม่ใช่การทดสอบสารสีน้ำเงินเพียงอย่างเดียว เมื่อ Apple หยุดผลิตสินค้าที่ยอดเยี่ยมและทำลายสถิติยอดขาย คุณควรเริ่มกังวล จนถึงตอนนี้ก็ยังดี